เสืออาถรรพ์ในป่าดงดิบ

Posted on 17 มีนาคม 202017 มีนาคม 2020Categories ประวัติและตำนานTags

ณ เขตชายแดนติดต่อกับประเทศเขรมของภาคอีสานแห่งหนึ่ง

เส้นทางนั้นแสนจะลำบากในทุกๆฤดูเป็นเวนกรรมของผู้ที่ใช้เส้นทางนี้หมู่บ้านมะแว้งได้ตั้งอยู่ในดงไม้ที่หนาแน่นไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นคนที่ริเริ่มในการที่มาลงหลักปักฐานถึงแม้จะเป็นกลางดงลึกแต่ก็มีคนอาศัยอยู่50หลังคาเรือนอาจจะเป็นเพราะดินค่อนข้างที่จะต่ำน้ำค่อนข้างที่จะชุ่มจากต้นน้ำหลายๆสายของทิวเขาตลอดทั้งชายแดนก่อนจะเข้าพรรษาเดือนพฤษภาคม

ก่อนฝนจะมาชาวบ้านบ้านมะแว้งได้มีโอกาสต้อนรับพระภิกษุสงฆ์อายุราวๆ60ปีเศษท่านได้ธุดงค์ผ่านมาท่านก็ได้พูดกับชาวบ้านว่าเข้าพรรษาปีนี้อาตมาประสงค์จะจำวัดอยู่ที่หมู่บ้านมะแว้งแห่งนี้ชาวบ้านต่างก็ดีใจยิ่งนักจึงได้พร้อมใจกันช่วยกับบ้านกุฏิขึ้นมาหนึ่งหลังให้เป็นที่พักชั่วคราวของพระธุดงค์เลือกสถานที่ต้นแม่น้ำเพราะเห็นมีความวิเวกดีชาวบ้านมะแว้งมีอุปนิสัยชอบในการทำบุญถึงเมื่อจะเป็นหมู่บ้านที่ยากจนแต่ทุกคนก็มีศรีธรรมรักไข้กันดี

จึงทำให้หลวงพ่อพระธุดงค์ชื่นชมอย่างพอใจในพรรษาชาวบ้านได้อยู่เย็นเป็นสุขกันมาจนในกระทั่งได้ผ่านมาถึงเดือนสุดท้ายก่อนออกพรรษาข้าวในนาตั้งสวยอากาศเย็นก็เริ่มมาท้องฟ้าที่เคยมืดมิดพอเมฆฝนได้หายไปมีปุยฝ้ายเข้ามาแทนที่แต่นำในห้วยก็เริ่มที่จะขาดแคลนและข่าวร้ายก็ได้กระจายไปทั่วหมาบ้านหมูแม่พันธุ์ที่มีอยู่ตัวเดียวของนายมิ้งที่ได้เลี้ยงเอาไว้ได้หายไปในตอนกลางคืนนายพรางคงชี้ชัดบอกว่าเสือมาคาบเอาไปกิน

เพราะบริเวณรอบบ้านมีรอยเท้าเสือเต็มไปหมดตั้งแต่นั้นมาวันควายก็ได้เริ่มหายไปเรื่อยๆแม้แต่สัตว์เล็กเป็ดไก่ก็ได้หายไปด้วยเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้านมะแว้งยิ่งนักใครที่มีวัวมีควายต่างก็จะนำเอามาผูกรวมกันเอาไว้ที่กลางหมู่บ้านและได้ก่อกองไฟเปลี่ยนยามกันอย่างหนาแน่นพอค่ำหน่อยต่างก็ปิดประตูหน้าต่างกันเงียบไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเด็กที่ร้องไห้เพราะกลัวเสือจะคาบเอามันไปกินใครมีธุระออกมาตอนกลางคืนจะไม่มีบ้านไหนเปิดประตูต้อนรับเป็นอันขาด

และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ชาวบ้านมะแว้งต้องสยองขวัญเพราะเสือได้คาบหมู่ของนายอินกับนางจันทร์อีกหนึ่งอาทิตย์จะออกพรรษาหน้าหัวบ้านก็เรียกลูกบ้านออกมาประชุมกันถึงเรื่องงานบุญในปีนี้ว่าจะเอาอย่างไรกันดีพอได้มีเสือเข้ามาในหมู่บ้านได้มีผู้หารกล้าห้าถึงหกคนอาสาที่จะไปจัดการกับเสือร้ายโดยนายพรานคงเป็นหัวหน้าพรานคงให้นายวินเอาหมูออกไปล่อที่กลางทุ่งและพวกของพรานคงก็ทำคัดห้างที่ต้นไม้ใหญ่คอยจับตาดูว่าเสือจะออกมาคาบหมูที่ผูกเอาไว้ตอนไหนเสือมันก็รู้ตัวไม่ยอมออกมาให้เห็นง่ายๆ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  nowbet

ประวัติเจ้าแม่กวนอิม

Posted on 15 มีนาคม 202015 มีนาคม 2020Categories ประวัติและตำนานTags

  เดิมเจ้าแม่กวนอิมนามว่า เมี่ยวเซียง 

ซึ่งท่านนั้นเป็นพระธิดาของเจ้าเมืองผู้ครอบครองอาณาจักร ซิงหลินอัน  ซึ่งเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระธิดาองค์ที่ 3 พระบิดาของเจ้าแม่กวนอิมเป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำศึกสงครามโดยมีพระราชบุตรเขยคือสามีของพี่สาวของพระองค์ร่วมกันช่วยออกรบ จนเป็นที่เกรงกลัวของคนทั่วไป โดยพระบิดาของพระองค์ได้มีการทำศึกสงครามขยายอาณาเขตไปทั่ว และพระองค์ไม่นับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  แต่เจ้าแม่กวนอิมกลับไม่เป็นเช่นพระบิดา พระองค์มีพระสิริโฉมที่งดงาม

และยังเป็นคนที่มีจิตใจดี มีเมตราโอบอ้อมอารี คอยช่วยเหลือคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย คนยากจนอยู่เสมอ แม้แต่พวกเชลย ที่ถูกพระราชบิดาของพระองค์จับมาขังเอาไว้ พระองค์ก็ยังทรงเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือคนอื่นในแต่ละครั้งนั้น พระองค์จะต้องแอบช่วยเหลือเพื่อไม่ให้พระบิดารู้เพราะจะถูกทำโทษอย่างหนัก 

ซึ่งเรื่องที่พระองค์มักจะปลอมตัวออกไปเพื่อช่วยเหลือคนนั้น พระมารดาของพระองค์ก็ทรงทราบเรื่องและได้คอยเตือนให้พระองค์ระวังตัวอยู่เสมอ และเมื่อถึงวัยที่ควรมีคู่ครองพระบิดาของเจ้าแม่กวนอิมก็ทรงสั่งให้พระองค์เลือกคนที่จะมาแต่งงานด้วย แต่พระองค์กลับปฏิเสธและบอกว่าจะไม่ขอมีคู่ครองพระองค์จะออกบวชเป็นพระภิกษุนี และจะบำเพ็ญเพียรจนให้บรรลุถึงพระโพธิญาณ เพื่อนำคำสอนของพระธรรมมาเผยแพร่ให้กับคนทั่วไปรวมถึงเป็นการสร้างบุญเพื่อให้พ่อกับแม่ได้ขึ้นไปสู่สรรค์

ซึ่งพระบิดาของพระองค์ได้หว่านล้อมพระองค์ทุกทางแต่ไม่สำเร็จด้วยความโกรธพระบิดาจึงยอมให้พระองค์ไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งแล้วให้ทำงานเองทุกอย่างทั้งตักน้ำ กวาดลานวัด หุงข้าวกินเองแต่ด้วยบุญบารมีทำให้เหล่าเทพยดา ต่างก็ลงมาคอยช่วยเหลือองค์เจ้าแม่กวนอิม เมื่อพระบิดารู้ข่าวก็ให้คนไปเผาวัดเพราะกลัวประชาชนจะเกิดความเลื่อมใสศัทธาต่อพระพุทธศาสนา แต่เจ้าแม่กวนอิมก็ตั้งจิตอธิฐานขอเป็นคนรับกรรมคนเดียว อย่าให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนด้วย

และขอให้พระองค์ได้มีโอกาสช่วยเหลือให้คนอื่นอื่นพ้นทุกข์ หลังจากอธิฐานเสร็จฝนก็ตกลงมาทำให้ไฟที่ไหม้วัดดับลง หลังจากนั้นพระบิดาทรงทราบเรื่องจึงได้ให้ทหารจับเจ้าแม่กวนอิมเข้าวังและให้ประหารชีวิตแต่ไม่มีอาวุธอะไรทำร้ายร่างกายพระองค์ได้ จนต้องนำผ้ามาผูกคอพระองค์ทำให้พระองค์เสียชีวิตลงหลังจากร่างล้มลง หลังจากนั้นก็มีควันสีขาวพุ่งตรงมาที่ร่างของเจ้าแม่กวนอิมแล้วกลายร่างเป็นเสือมาคาบร่างของเจ้าแม่กวนอิมไปและพระองค์ก็ฟื้นขึ้นมาในป่า

ก็เจอกับหนุ่มหล่อมาทดสอบพรหมจรรย์ของพระองค์ แต่พระองค์ก็ทำให้เห็นว่าพระองค์มั่นคงต่อการบำเพ็ญเพียรไม่สนใจชายคนดังกล่าว ชายคนนั้นจึงแสดงตนว่าเป็นพระโพธิสัตว์และพาเจ้าแม่กวนอิมไปฝึกบำเพ็ญตนจนครบ 9 ปีพระองค์จึงได้บรรลุเป็นพระโพธิสัตว์ ที่คอยมาช่วยเหลือผู้คนนับแต่นั้นเป็นต้นมา

 

สนับสนุนมาจาก  dewabet

ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร

Posted on 9 มีนาคม 20209 มีนาคม 2020Categories ประวัติและตำนานTags

ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร

        อย่างที่เราทราบกันดีว่าหลวงพ่อโสธร เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านในจังหวัดฉะเชิงเทราหรือจะเป็นจังหวัดอื่นอื่นก็ตาม ต่างก็ให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อโสธรกันมากและมีเรื่องเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านมากมายแทบจะเล่ากันไม่หวาดไม่ไหว  ซึ่งหลวงพ่อโสธรเป็นเสมือนศูนย์รวมแห่งจิตใจของชาวบ้านเลยก็ว่าได้ หากใครที่เดือนเนื้อร้อนใจ ต้องการหาที่พึ่งทางจิตใจก็มักจะเดินทางมากราบไหว้ขอพร หรือบนบานศาลกล่าวกับองค์หลวงพ่อโสธรกันทุกครั้งไป ซึ่งเราจะมาเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรที่ทุกวันนี้ยังมีการกล่าวขานถึงกันอยู่ไม่รู้ลืม

              มีเรื่องเล่ากันว่าแต่เดิมแล้วเมืองฉะเชิงเทรานั้นมีคนอาศัยอยู่น้อยมาก การค้าขายก็ไม่ค่อยเจริญรุ่งเรืองมากสักเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีความสะดวกสบายคนจึงไม่ค่อยมาอยู่อาศัยกัน แต่เมื่อหลวงพ่อได้มาประดิษฐานอยู่ที่วัดเสาธงทอนแล้ว ชาวบ้านก็พากันมาขอพร ขอให้หลวงพ่อโสธรช่วยเรื่องการค้าขาย ให้ขายของได้คล่องและใครที่พายเรือผ่านมาถึงหน้าวัดที่หลวงพ่ออยู่ก็มักจะตัดเอาน้ำไปดื่มกิน และอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตของตัวเอง หรือบางคนก็นำไปพรมเป็นน้ำมนต์ใส่สินค้าที่อยู่บนเรือเพื่อให้ชายสินค้าได้ง่าย

ซึ่งชาวบ้านได้บอกกันปากต่อปากว่าสิ่งที่ชาวบ้านทำนั้นสัมฤทธิ์ผล เพราะการค้าขายดีขึ้นกว่าเดิมมาก และหากใครก็ตามที่มาขอให้หลวงพ่อโสธรช่วยกันจะสมหวังกันทุกรายไป จนเป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน  และเคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เมืองนี้เกิดโรคระบาดขึ้น ประชาชนพากันเจ็บป่วยล้มตายกันเป็นจำนวนมาก มีครอบครัวหนึ่งป่วยติดโรคระบาดนี้กันทั้งครอบครัว หัวหน้าครอบครัวก็คือพ่อได้พาภรรยาและลูกเดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อโสธร และนำดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้ พร้อมทั้งตั้งจิตอธิฐานบนกับหลวงพ่อขอให้มีปาฎิหาริย์ให้ทุกคนในครอบครัวหายจากอาการเจ็บข้าได้ป่วยในครั้งนี้

ซึ่งหลังจากไหว้เสร็จ เขาได้นำ ขี้ธูป ดอกไม้ที่นำมาไหว้แล้วเหี่ยวแล้ว และน้ำมันจากหลวงพ่อโสธร โดยเอาทั้งสามอย่างนี้มาต้มน้ำแล้วกินและอาบ ซึ่งผลทีส่งมาคือ ทั้งครอบครัวหายจากโรคระบาดที่เป็นอยู่ ซึ่งหลังจากหายก็มีการมาแก้บน และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ชาวบ้านคนไหนที่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจก็จะมาตั้งจิตอธิฐานขอพรกับหลวงพ่อโสธรและเมื่อสำฤทธิ์ผลแล้วก็จะกลับมาแก้บนกันทุกครั้ง

 

สนับสนุนโดย  rb88

ตำนานเสือใบ

Posted on 7 มีนาคม 20207 มีนาคม 2020Categories ประวัติและตำนานTags

เรื่องราวของเสือใบเขาได้ผ่านดีผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายและจนในที่สุดก็ได้สงบลงได้ใต้ร่มเงาของธรรมะเสือใบมีอายุ79ซึ่งได้เป็นยุคเดียวกับกับ เสือฝ้าย เสือดำ เสือมเหศวร ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่สองคนคือ เสือมเหศวร เสือใบ เขาได้เป็นเพื่อนกันอายุห่างกัน2ปี เสือใบได้ออกคุกมาเมื่อประมาณปี2506 ก็35ปีมาแล้วได้ติดคุกอยู่ประมาณ16ปี

ได้ถูกตัดสินประชีวิตแต่ก็ได้รับอภัยโทษจากนั้นก็ได้เริ่มเข้าสู่การเป็น เสือใบ และได้ตั้งชุมโจมตั้งแต่อายุ23 24ปี และเหตุนี้ที่ทำให้ได้กลายเป็นเสือตามหลักเสือใบก็เป็นคนที่ช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาเป็นคนชาวสุพรรณบุรี ที่นี่ก็มีพวกนักเลงเขามาขโมยควายและยังไม่พอยังได้เข้ามาฉุดน้องเมียของเสือใบไปอีกจากนั้นเสือใบก็เริ่มที่จะทนไม่ไว้เสือใบได้นำปืนหนับหลัง

เพราะเขานั้นได้รู้แล้วว่าคนที่เข้ามาฉุดน้องเมียของเขานั้นเป็นใครพอรู้เท่านั้นแหล่ะเสือใบก็ได้ยิงปืนทันทีพร้อมกับลูกน้องประมาณสามคนด้วยความที่เขานั้นได้กระทำลงไปเป็นเพราะเพียงอารมณ์ชั่ววูบได้ความที่เขานั้นอายุยังเด็กอยู่บวกกับความคิดยังเด็กอยู่จากนั้น เสือใบ ก็ได้หนีเข้าไปเจอกับ เสือฝ้าย

จากนั้นเสือฝ้ายก็ได้พาออกปล้นทันทีที่แรกที่ไปปล้น คหบดีซึ่งเป็นผู้มีเงินทองมากมายจากนั้นพอได้ทำการปล้นเสร็จแล้ว พวก เสือใบก็ได้เดินออกมาก็ถูกยิงแต่ยิงไม่เข้าเพราะ เสือใบนั้น มีพระ และ คาถา ปลุกตัว จากนั้นเสือใบก็ได้อยู่กับ เสือฝ้ายประมาณ4เดือนจากนั้นก็ได้ถอยออกมาจากนั้น เสือใบ ก็ได้ตั้งชุมโจรต่างหากสาเหตุที่ เสือใบ

ออกมาตั้งชุมเองนั้นเป็นเพราะว่าถ้าหากเสือใบนั้นยังคงอยู่กับ เสือฝ้าย เสือฝ้ายก็จะใช้ให้ปล้อจี้ต่างๆเพราะเหตุนี้เสือใบเองก็เลยมาตั้งชุมเป็นของตัวเองเพื่อจะให้หนักนั้นได้กลายเป็นเบาจากนั้นก็ได้มีลูกน้องของเสือฝ้ายเข้ามาอยู่ด้วยจากนั้นเสือใบเองก็เลือกปล้นเหมือนกันจะปล้นเฉพาะเขาจะเลือกปล้นคนที่รับจำนองที่ดินพวกที่โกงพวกชาวบ้านพอเขาปล้นเสร็จก็จะเอาไปแจกพวกชาวบ้านคนจน

 

ได้รับการสนับสนุนมาจาก  entaplay

ตำนานบุกถล่มประเทศโปแลนด์

Posted on 4 มีนาคม 20204 มีนาคม 2020Categories ประวัติและตำนานTags

ตำนานสงครามรวมมือกับเยรมันและโซเวียตบุกถล่มประเทศโปแลนด์

เมื่อมหาอำนาจเรานั้นมันไม่สามารถที่จะตกลงกันได้แน่นอนแล้วว่าสงครามมันคือทางออกจนมันได้กลายมาเป็นสงครามในปวัติศาสตร์ที่เรารู้จักนี่แหล่ะและตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ผ่านมาโลกของเราก็ผ่านมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่1สงครามโลกครั้งที่2จนนำไปสู่สงครามเย็นและสงครามเวียดนามเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสงครามที่เกิดขึ้นมานั้นมีผลดีอะไรกันแน่ทำไมมันเกิดขึ้นบ่อยเหลือเกิน

การบุกรุกโปแลนด์ 

การบุกรุกโปแลนด์คือการต่อสู้ครั้งแรกในช่วงของสงครามโลกครั้งที่2ซึ่งสงครามแรกได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่1กันยายนปี1939มันเป็นการบุกรุกที่เกิดผลมาจากการทำข้อตกลงกันระหว่างประเทศเยรมันและสหภาพโซเวียตโดยที่ทั้งสองประเทศนี้สัญญากันไว้ว่าหากว่าเรานั้นรวมมือกันที่จะไปถล่มโปแลนด์ทั้งสองประเทศนั้นก็จะแบ่งกันคนละครึ่งและในระหว่างนั้นเยยรมันก็เลยเข้าไปถล่มโปแลนด์ก่อนจากทางตะวันตกด้วยมีการโจมตีที่โหดและในตอนนั้นเพาเวอร์ของเยรมัน

ก็มีเต็มร้อยเปอร์เซ็นจนกองทัพโปแลนด์ไม่สามารถที่จะต้านทานเอาไว้ได้ก็เลยมีการสั่งให้ถอยออกไปก่อนที่กองทัพโซเวียตจะเห็นช่องว่างก็เลยเข้าไปทางด้านหลังของเยรมันถล่มไปอีกรอบจนได้แตกสลายไปในที่สุดถึงแม้ว่าประเทศโปแลนด์จะมีความสามารถในทางอุตสาหกรรมที่ก้าวหหน้าสุดและก็ตามและไม่คิดเหมือนกันว่าเยรมันนั้น

จะกลายทำสิ่งนี้และก้ไม่คิดเหมือนกันว่าเยรมันจะเข้ามาตีได้เร็วก่อนขนาดนี้แทบจะไม่ได้ตั้งตัวใดๆเลยทั้งสิ้นอีกทั้งยานหุ้มเกาะของโปแลนด์ก็มีจำนวนที่น้อยมากกว่าเยรมันและในขณะที่เยรมันที่เต็มไปด้วยกำลังลทหารและเรื่องบินทิ้งระเบิดที่มีประสิทธิ์ภาพสูงสุดคือเทคโนโลยีทางทหารก้าวหน้ากว่าใครเขาก่อนที่เขาจะใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดประสิทธิ์ภาพสูงสังหารพลเรือนไปมากมาย

ถึงแม้ว่าโปแลนด์จะทำสัญญาอย่างลับๆกับประเทศฝรั่งเศษอังกฤษที่คอยช่วยเหลือกันก็ตามแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นมาเลยเพราะว่าฝ่ายสําพันทะมิดนั้นไม่ได้เข้าไปช่วยอะไรเขาเลยสักอย่างถึงแม้ว่าเขาจะส่งกำลังไปช่วยแล้วก็ตามแต่มันเป็นกำลังพลที่น้อยหลังจากนั้นมันก็ไม่ทันเวลาสุดท้ายก็ได้แตกยับไปในที่สุด

ซึ่งมันจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้โปแลนด์นั้นเชื่อว่าพวกเขานั้นได้ถูกฝ่ายสําพันทะมิดหักหลังและพอได้พ้นไปจากสงครามนั้นก็เป็นเหตุที่ทำให้ทหารโปแลนด์เสียชีวิตไปมากกว่า6หมื่นนายและได้ถูกจับไปเป็นชะเลยมากกว่า1แสนนายและส่วนฝ่ายเยรมันก็เสียชีวิตไปแค่เพียง1หมื่นนายเท่านั้นและโซเวียตเสียชีวิตไปแค่1พันนายเท่านนั้นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวเหล่านี้มาจาก  BK8

เบิ่งตาดลาวใต้ 1

Posted on 29 กุมภาพันธ์ 202027 กุมภาพันธ์ 2020Categories ประวัติและตำนานTags

วันนี้เราก็ได้กลับมาเยี่ยมแผ่นดินที่อินโดจีนกันอีกครั้งหนึ่งในวันที่มีเมฆหมอกฝน จุกหมายของเรานั้นก็คือตอนใต้ของ สปป ลาว กับสถานนะการที่ได้เปลี่ยนแปรงไปอย่างสิ้นเชิง ประตูบานเก่าได้ถูกเปิดออกกว้างจนสุดแสดงให้เห็นถึงความพร้อมสำหรับการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก  สาธารณะประชาธิปไตยประชาชนลาว

เพื่อสำรวจในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังถูกพัฒนา

การเดินทางสู่ลาวตอนใต้ครั้งนี้ได้เลือกเดินทางที่ด่านช่องเม็ก  ช่องเม็กเป็นด่านพรมด่านใหญ่ของจังหวัดอุบลราชธานีมีเขตติดต่อกันกับ สปป ลาว ที่บ้านวังค์เต่าเมื่ได้ขับรถต่อไปจะต้องข้ามแม่น้ำโขงที่สพานมิตรภาพลาวญี่ปุ่นเพื่อที่จะเข้าสู่เมืองปากเซและจุดหมายแรกก็คือ ตาดผาส้วม คนลาวเรียกน้ำตกว่าตาดส่วนคำว่าส้วมเป็นภาษาลาวมีความหมายถึงห้องหอน้ำตกแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว

เพราะได้มาความสะดวกในการเดินทางและมีน้ำไหลอยู่ตลอดทั้งปีสายน้ำของตาดผาส้วมไหลมาจากภูเทวดา ซึ่งได้เป็นภูเขาไฟเก่าที่ได้ระเบิดมานานหลายร้อยปีเมื่อได้ไหลเข้ามาถึงที่นี่ม้วนน้ำจะทิ้งตัวจากผาหินลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลมลงสู่อ่างน้ำกว้างด้านล่างแผ่นผาที่ตั้งชันมีลักษณะเป็นแท่งเป็นเรียงขนาดเป็นแนวผาแบ่งซอยแผ่นหินใหญ่เป็นหรืบช่องชั้นจนกลายมาเป็นที่มาของ ผาส้วม หรือ ห้องหอของ บ่าวสาว

โดยรอบผาของน้ำตกยังมีสภาพที่ดิบสมบูรณ์เต็มไปด้วยต้นไม้นานๆพันสภาพอากาศเย็นๆสบายเหมาะแก่การพัผ่อนย่อใจที่นี้ยังมีการสร้างสพานแขวนขนานเอากับผาน้ำตกเพื่อที่จะให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมน้ำตกได้อย่างไกล้ชิตจากนั้นไม่ไกลจากตัวน้ำตกได้มีการรวบรวม จัดสร้าง หมู่บ้านชนเผ่าไว้เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้วิธีชีวัตของชนเผ่าต่างๆ เช่น เรือนพักอาศัย

เครื่องใช้ไม้สอยเครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรี สถานที่ประกอบพิธีกรรม

ซึ่งเหล่านี้จะช่วยให้คนต่างถิ่นได้เข้าใจถึงวัฒนธรรมขอชนเผ่า เช่น ชนเผ่ากะตู้ ชนเผ่าอาลัก ชนเผ่าระแว ชนเผ่าส่วย ซึ่งตรงนั้นเป็นที่เขาได้จำลองของชนเผ่ากะตู้เป็นบ้านกลางเป็นบ้านที่อยู่ใจกลางหมู่บ้านเพราะว่าช่วงที่มีงานประเพณีเขาก็จะมีการล้มวัวล้มควายแต่ที่บริเวณนี้เขาไม่ได้จัดแสดงจริงถ้าหากว่าเราอยากจะดูก็จะต้องออกจากที่นี้ไปประมาณราว10 ถึง 20กิโล

ได้มันก็จะมีอีกหมู่บ้านหนึ่ง เป็นชนเผ่ากะตู้ ที่เป็นหมู่บ้านใหญ่ และน้ำตกในแห่งที่สองของพวกเราก็คือน้ำตกตาดอีตู้ขับรถไปประมาณไม่กี่กิลำคุณก็จะถึง

การเดินทางในแผ่นดินอินโดจีน

Posted on 29 กุมภาพันธ์ 202027 กุมภาพันธ์ 2020Categories ประวัติและตำนานTags

สงครามที่ได้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานครั้งแล้วครั้งเล่ามันกินเวลาต่อเนื่องเวลามานานหลายสิบปีจนทำให้พื้นที่เกือบทั้งหมดของกลุ่มประเทศในคาบสมุดอินโดจีนกลายเป็นดั่งแดนสนธยากีดกันตัวเองออกจากนานาชาติพร้อมกับเก็บนำเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นเอาไว้แต่ภายในเหมือนมีประตูบานใหญ่ปิดกั้นกักเก็บตัวเองไว้เพียงลำพัง

เรื่องนี้ได้ถูกสร้างเป็นปริศนาท้าทายให้นักบุกเบิกทำให้คิดสืบหาช่องทาง

เพื่อจะเข้าไปค้นหาความลับที่ได้ปกปิดอยู่และก็มีทีมงานเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นความพยายามและตั้งใจอย่างหนักแน่นทำให้มีโอกาสเดินทางเข้าไปสำรวจในแผ่นดินอินโดจีนตั้งแต่กลิ่นไอจากไฟสงครามที่มีกลิ่นอยู่บางๆยุคแรกที่ทีมงานได้เข้าไปสำรวจในดินแดนอินโดจีน

เกิดขึ้นเมื่อราว3ศตวรรษก่อนช่วงนั้นเราเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางสหลวดข้อมูลเริ่มต้นมีอยู่เพียงน้อนนิดอีกทั้งผู้ที่มีอำนาจรับผิดชอบในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ดูเหมือจะไม่ค่อยเต็มใจนักกับการมาถึงของคนแปลกถิ่นอย่างพวกเราทำให้การวางแผนการเดินทางเป็นไปอย่างยากเย็นและติดขัดต้องปรับเปลี้ยนจุดหมายกันอยู่ตลอด

โดยเฉพาะเมื่อเราได้ยินเรื่องราวที่น่าสนใจใหม่ๆจากปากชาวบ้านในท้องถิ่นหรือประกาสิทธิ์ของเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาดการเดินทางในดินแดนที่จมอยู่กับการสู้รบมาตลอดหลายสิบปีทำให้ทุกก้าวย่างเต็มไปด้วยความยากลำบากและอันตรายถนนหนทางที่จำนำรถวิ่งผ่านส่วนใหญ่เป็นถนนลำรองที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามเพื่อใช้ประโยชน์ในการลำเรียงยุทพันถนนเหล่านี้มีสภาพทรุดโทรมเต็มไปด้วยหลุมบ่อและหลายแห่งยังมีวัตถุระเบิดตกค้างมาจากสงคราม

ซึ่งพวกมันพร้อมที่จะเผยตัวแสดงอนุภาพให้ผู้เคราะห์ร้ายได้ประจักษ์ทุกกิโลเมตรที่รถของเรานั้นวิ่งผ่านจึงเต็มไปด้วยความเหนื่อยยากและใช้เวลาเนินนานเกือบกว่าที่ใครจะคาดคิดและยังไม่รวมภัยจากการดักซุ่ม โจมตีของกลุ่มชนต่างๆที่ตั้งกฏเป็นกองอิสระรวมตัวเป็นชุมชนย่อยๆกระจายอยู่หลายพื้นที่ทั้งหมดลวนเป็นอุปศักดิ์หนักหนา

สำหรับนักเดินทางแปลกหน้าอย่างเราแต่มันก็คุ้มค่ากับเรื่องราวที่เรานั้นได้พบเห็นและได้นำเอามาเปิดเผยนำเอามาบอกเล่าให้ผู้คนที่อยู่ภายนอกนั้นได้รับรู้ซึ่งภาพบางภาพนั้นหรือในเรื่องบางเรื่องก็ได้ถูกจุดให้เป็นกระแสได้มีการถกเถียงต่อยอดกันมาอย่างกว้างขวางและนี้ก้เป็นเรื่องนำทางอีกครั้งที่พวกเรานั้นได้กับมาเยี่ยมในแผ่นดินอิโดจีนกันอีกครั้งหนึ่งในวันที่ฟ้ามีเมฆฝนจุดหมายของเราก็คือตอนใต้ของ สปป ลาว

เรื่องราวประวัติศาสตร์และตำนาน

Posted on 28 กุมภาพันธ์ 202027 กุมภาพันธ์ 2020Categories ประวัติและตำนานTags

ผาหินที่พบในนลุ่มน้ำโขงและมีหินที่มีปรากฏการสะท้อนแสง ลานหินสีประกาย

ในเส้นทางของเรือนำเที่ยวในช่วงหนึ่งจะผ่าไปยังแนวหน้าผาหินชาวบ้านเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า ผาชัน ตามลักษณะของแนวผาสูงที่ได้ตั้งเรียบกับแม่น้ำโขง ผาชันเป็นแนวหน้าผาหินเทาและเทาอมม่วงมีความสูงขึ้นไปจากระดับน้ำประมาณราวๆ20 ถึง 30เมตร จุดเด่นในทางธรณีที่สำคัญของผาชันคือมีการแสดงแนววางตัวของชั้นหินที่เห็นได้อย่างชัดเจน

และสวยงามอยู่หลายจุดผาหินในบางช่วงที่ได้ถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำก็จะเกิดร่องแตกรอยแยกและรูพรุนไปทั่วและนอกจากนี้ผาชัดยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในยุคอาณานิคมที่ชาวฝรั่งงเศษได้เข้ามาเขียนตัวเลขแสดงระดับน้ำเพื่อให้เป็นประโยชน์ก็การเดินเรือในที่ลุ่มแม่น้ำโขงชาวบ้านจะเรียกบริเวณตรงที่ผาหินตรงนี้ว่าผาเลขสองฝั่งน้ำโขงในที่แนวเขตแห่งนี้ซึ่งมันเต็มไปด้วย

แหล่งทางธรณีวิทยาเพื่อเป็นการปมฟักของแหล่งธรรมชาติที่มีมาเนินนานมาแล้วนับแสนนับล้านปี

จนได้เกิดมาเป็นศนียภาพที่เป็นอันน่าอัศจรรย์และยังมีแหล่งที่น่าเข้าไปศึกษาและเข้าไปเรียนรู้สำหรับในลานหินสีประกายแสงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่เรือนักท่องเที่ยวนั้นจะแวะจอดที่นี่เพื่อที่จะด้พาผู้โดยสารเข้าและขึ้นไปชมความงามอันเป็นที่มาของชื่อของสถานที่และในบนที่มีลานโล้งกว้างได้มีความยาวประมาณราวๆ300เมตร

ที่เต็มไปด้วยของหินที่มีขนาดเล็กและหินที่มีขนาดใหญ่ที่มันดูแตกต่างไปจากก้อนหินที่เรานั้นพบเห็นอยู่ตามทั่วไปคือก้อนหินนั้นมีจะมีลักษณะที่มีการสะท้อนแสงเมื่อก้อนหินนั้นได้ถูกแสงแดดนั้นส่องเข้ามาก็จะปรากฏเป็นแสงประกายยระยิบเมื่อก้อนหินนั้นได้ต้อนแสงแดดสำหรับก้อนเหล่านี้มันก็จะมีหินที่มีความหลากหลายสีสันด้วยกันจะมีตั้งแต่ก้อนหินสีดำ ก้อนหินสีแดง ก้อนหินสีน้ำตาลออกเหลือง และ ชมพู

สำหรับทางด้านธรณีวิทยาก็ได้มีการอธิบายเรื่องราวต่างๆที่มีการปรากฏการของก้อนหินบนหาดว่ามันทำไมมันถึงได้มีลักษณะที่มันเนเช่นนี้นั้นก็คือในระหว่างกระบวนการของการเกิดเป็นหินจากนั้นก้ได้มีการปรากฏตัวของซิลิกาในสภาพที่มันอิ่มตัวในน้ำที่ได้มีการเคลื่อนตัวในตระกรของทรายซึ่งมันก็ได้เป็นลักษณะที่มีความพิเศษทางด้านธรณีวิทยาที่มันนั้นจะหาดูได้ยากมากในแบบหนึ่ง และสำหรับการเดินทางนี้ก็ไม่ยากเส้นทางนี้อยู่ทางหลวงหมาย24และยังมีแหล่งที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆอยู่อีกมาของจังหวัดอุบลราชธานี

เกาะหินสามพันโบกและเสาเฉลียง

Posted on 27 กุมภาพันธ์ 202027 กุมภาพันธ์ 2020Categories ประวัติและตำนานTags

การเปลี่ยนแปรงทางธรณีวิทยาที่มีลักษณะเด่นของผาแต้มนอกจากหน้าผาและแม่น้ำไกล้กันนั้นก็ยังพบตัวอย่างที่น่าสนใจอยู่สองลักษณะ คือ ลานหินแตกและเสาเฉลียง ลานหินแตกเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกทำให้ชั้นหินหนาโก่งงองจนแยกแตกออกเป็นแนวดิ่ง

ส่วนเสาเฉลียงเกิดจากการกัดก่อนชั้นหินของน้ำลมและแสงแดดต่อเนื่องนับล้านปีการกัดก่อนทับซ้อนทั้งในแนวลาบและแนวดิ่งทำให้เกิดเป็นแท่งหินรูปลักษณ์ประหลาดคล้ายกับว่ามีมือยักษ์มาจับหินสองก้อนมาตั้งวางทับซ้อนกัน

ลานหินกว้างริมน้ำโขงมันวางตัวเองอยู่ตรงนี้มานานแสนนาน

ในฤดูน้ำหลากลานหินจะถูกแผร่คุมด้วยพื้นน้ำกว้างจอบจนเม็ดฝนขาดช่วงสายน้ำโขงก็จะลดระดับลงให้ลานหินออกมาท้าทายกับแสงแดดกล้าชาวบ้านเรียกชื่อของสถานที่แห่งนี้ว่าสามพันโบกซึ่งในอดีตทัศนียภาพอันงดงามอันแปลกตานี้หากว่าไม่ใช่คนในพื้นที่นี้จริงๆก็คงมีคนต่างถิ่นอยู่เพียงไม่มากที่มีโอกาสได้ชื่นชมแต่ฉับพลันที่ภาพของสามพันโบกปรากฏออกในสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวไทย

เมื่อหลายปีก่อนชื่อของสามพันโบกก็ได้ขยับตัวเข้ามาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแถวหน้าของในจัวหงัดแทนในทันที สามพันโบกเป็นลานหินทราย และ หินทรายปนกรวดในโหมดหินภูพานอายุประมาณ110ล้านปีเป็นการสะสมตัวในสภาพแวดล้อมทางน้ำประสานสายและโค้งตวัดท้ามกลางอากาศที่ค่อนข้างร้อนชื้นจนเมื่อราว65 ถึง 90ล้านปี

ก่อนกระบวนการก่อนก็ได้เริ่มขึ้นอย่างช้าๆเมื่อกรวดทรายเม็ดเล็กถูกกระแสน้ำพัดพามาวนที่บนพื้นหินการเสียดสีได้กัดก่อนผิวแข็งของชั้นหินจนเกิดเป็นร่องรูขนาดเล็กๆหลังจากนั้นหินในเม็ดต่อๆมาที่หลุดรอดเข้าในหลุมก็จะค่อยๆขันถูขยายขนาดจนเนื้อหินนั้นกลายเป็นโพงโค้งเว้าที่มีผิวเรียบลื่น

ซึ่งศัพท์ทางวิชาการได้เรียกหลุมเหล่านี้ว่าหลุมกุมภลักษณ์ความสวยงามของสามพันโบกเป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีบนลานหินที่มีความกว้างราว400เมตรและยาวราวๆ1กิโลเมตรจะได้พบหลุมกุมภลักษณ์กระจายไปทั่วหลุมหินเหล่านี้ได้มีขนาดที่แตกต่างกันตั้งแต่หลุมเล็กๆขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่กี่นิ้วไปจนถึงบ่อใหญ่ขนาดหลาย10ตารางเมตร

หลุมบางหลุมก็ก็ได้มีรูปร่างแปลกๆพอให้ชวนจินตนาการเป็นภาพต่างๆ ซึ่งงจริงๆแล้วหลุมกุมภลักษณ์จะมีรูปร่างเป็นเพียงวงกมลวงรีแต่เมื่อหลุมหลายๆหลุมขยายตัวจนเชื่อมต่อกันก็จะทำให้เกิดหลุมหน้าตาแปลกๆขึ้นมาได้ดังนั้นจึงทำให้เกิดเป็นรูปน่าตาต่างๆให้เราได้เฆ้นกันทุกวันนี้

เกาะที่มีประเทศแย่งกันมากมาย

Posted on 22 กุมภาพันธ์ 202022 กุมภาพันธ์ 2020Categories ประวัติและตำนานTags

สำหรับเรื่องนี้ที่ใครอ่านก็อาจจะชอบเพราะว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของพรมแดนและการแย้งเอามันมาเป็นเจ้าของหรือว่าถือสิทธิ์ยึดครองของ หมู่เกาะสแปรตลี ถ้าจะมองในรูปภาพแผนที่ก็จะเห็นว่าแผนที่ที่มีสีแดงนั้นคือกลุ่มประเทศทั่วโลกที่มีปัญหาความขัดแย้งเรื่องของเขตแดนหรือพรมแดนเพราะฉะนั้นมันมีเกือบทั่วโลกส่วนที่มีสีเหลืองนั่นเกิดจากข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้น

เรามาเจาะให้ลึกลงไปกว่านั้นดูแค่ทวีปเอเชียประเทศพี่ใหญ่ที่มักจะมีปัญหาเขตแดนกับประเทศอื่นๆก็คงจะไม่พ้นประเทศจีน จีนมีข้อพิพาทกับประเทศอื่นๆไม่ต่ำกว่า10กรณีเกือบครึ่งหนึ่งเกิดขึ้ยบนบกระหว่าง พรมแดนปากีสถาน อินเดีย ภูฏาน อีกครึ่งอยู่ในทะเลญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เป็นต้น

เรามาดูเกาะแรกที่ประเทศญี่ปุ่นชื่อว่าเกาะโอกิโนโทริชิมะซึ่งเป็นเกาะที่เกิดจากแนวปาการังเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่เพราะว่ามีขนาดเล็กมากมีแค่เพียง10ตารางเมตรเท่านั้นบอกได้เลยว่าแค่มีคนไปยืนอยู่คนเดียวก็ยังเหงาเพราะว่ามันเล็กเกินแต่ว่าเกาะแห่งนี้ก็กลายเป็นกรณีพิพาททางเขตแดนของญี่ปุ่นและจีนจนได้รวมไปถึงประเทศรอบข้างอย่าง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ก็เอากับเขาด้วยเท่ากับว่าโอกิโนโทริชิมะทะเลาะกันอยู่4ประเทศ

ทั้งๆที่จริงแล้วมันเป็นเกาะที่มีแนวปาการังล้อมรอบและเขาทะเลเรื่องเขตแดนไป

เพื่ออะไรกันและมากไปกว่านั้นญี่ปุ่นเขาถือว่าแนวปาการังแห่งนี้มันเป็นเกาะทำให้โดยบริเวณโดยรอบนี้ญี่ปุ่นกำเนิดให้เป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะตามกฏหมายทางทะเลทำให้จีนและประเทศอื่นๆต้องเดินเรือหลบเกาะจิ๋วแห่งนี้เป็นอาณาเขตที่ไกลกว่า200ไมล์ทะเลหรือประมาณ370กิโลเมตรเลยทีเดียวแถมญี่ปุ่นยังถือว่าเกาะแห่งนี้เป็นเขตปกครองหนึ่งของกรุงโตเกียวเพื่อเพิ่มความเครียดความจริงจังอีกด้วยคนจะได้เกรงใจเราว่าโตเกียวนั้น

ดูแลอยู่ แต่พอ ญี่ปุ่นกำเนิดมาสะขนาดนี้ประเทศอื่นจะต้องเดินเรืออ้อมไกลบอกได้เลยว่ามันจะไม่ตีกันได้อย่างไรก่อนอื่นเรามาดูเลยว่าตรงไหนมันคือทะเลจีนตอนใต้ใช้แล้วละว่าทะเลจีนตอนใต้นั้นเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกทะเลจีนใต้ครอบคลุมตั้งแต่ประเทศสิงคโปร์ขึ้นไปเรื่อยๆตามชายฝั่งทางด้านตะวันออกไปจนถึงช่องแคบใต้หวันเพราะฉะนั้น

อ่าวไทยของเราก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในทะเลจีนตอนใต้เช่นกันทะเลจีนตอนครอบคลุมพื้นที่ประมาณ3,500,000ตารางกิโลเมตรและก็เป็นที่อยู่ของเกาะมากมายส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มเกาะที่มีจำนวนหลายร้อยเกาะและจำนวนมากของเกาะก้ไม่มีคนอยู่อาศัย