เรื่องราวประวัติศาสตร์และตำนาน

ผาหินที่พบในนลุ่มน้ำโขงและมีหินที่มีปรากฏการสะท้อนแสง ลานหินสีประกาย

ในเส้นทางของเรือนำเที่ยวในช่วงหนึ่งจะผ่าไปยังแนวหน้าผาหินชาวบ้านเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า ผาชัน ตามลักษณะของแนวผาสูงที่ได้ตั้งเรียบกับแม่น้ำโขง ผาชันเป็นแนวหน้าผาหินเทาและเทาอมม่วงมีความสูงขึ้นไปจากระดับน้ำประมาณราวๆ20 ถึง 30เมตร จุดเด่นในทางธรณีที่สำคัญของผาชันคือมีการแสดงแนววางตัวของชั้นหินที่เห็นได้อย่างชัดเจน

และสวยงามอยู่หลายจุดผาหินในบางช่วงที่ได้ถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำก็จะเกิดร่องแตกรอยแยกและรูพรุนไปทั่วและนอกจากนี้ผาชัดยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในยุคอาณานิคมที่ชาวฝรั่งงเศษได้เข้ามาเขียนตัวเลขแสดงระดับน้ำเพื่อให้เป็นประโยชน์ก็การเดินเรือในที่ลุ่มแม่น้ำโขงชาวบ้านจะเรียกบริเวณตรงที่ผาหินตรงนี้ว่าผาเลขสองฝั่งน้ำโขงในที่แนวเขตแห่งนี้ซึ่งมันเต็มไปด้วย

แหล่งทางธรณีวิทยาเพื่อเป็นการปมฟักของแหล่งธรรมชาติที่มีมาเนินนานมาแล้วนับแสนนับล้านปี

จนได้เกิดมาเป็นศนียภาพที่เป็นอันน่าอัศจรรย์และยังมีแหล่งที่น่าเข้าไปศึกษาและเข้าไปเรียนรู้สำหรับในลานหินสีประกายแสงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่เรือนักท่องเที่ยวนั้นจะแวะจอดที่นี่เพื่อที่จะด้พาผู้โดยสารเข้าและขึ้นไปชมความงามอันเป็นที่มาของชื่อของสถานที่และในบนที่มีลานโล้งกว้างได้มีความยาวประมาณราวๆ300เมตร

ที่เต็มไปด้วยของหินที่มีขนาดเล็กและหินที่มีขนาดใหญ่ที่มันดูแตกต่างไปจากก้อนหินที่เรานั้นพบเห็นอยู่ตามทั่วไปคือก้อนหินนั้นมีจะมีลักษณะที่มีการสะท้อนแสงเมื่อก้อนหินนั้นได้ถูกแสงแดดนั้นส่องเข้ามาก็จะปรากฏเป็นแสงประกายยระยิบเมื่อก้อนหินนั้นได้ต้อนแสงแดดสำหรับก้อนเหล่านี้มันก็จะมีหินที่มีความหลากหลายสีสันด้วยกันจะมีตั้งแต่ก้อนหินสีดำ ก้อนหินสีแดง ก้อนหินสีน้ำตาลออกเหลือง และ ชมพู

สำหรับทางด้านธรณีวิทยาก็ได้มีการอธิบายเรื่องราวต่างๆที่มีการปรากฏการของก้อนหินบนหาดว่ามันทำไมมันถึงได้มีลักษณะที่มันเนเช่นนี้นั้นก็คือในระหว่างกระบวนการของการเกิดเป็นหินจากนั้นก้ได้มีการปรากฏตัวของซิลิกาในสภาพที่มันอิ่มตัวในน้ำที่ได้มีการเคลื่อนตัวในตระกรของทรายซึ่งมันก็ได้เป็นลักษณะที่มีความพิเศษทางด้านธรณีวิทยาที่มันนั้นจะหาดูได้ยากมากในแบบหนึ่ง และสำหรับการเดินทางนี้ก็ไม่ยากเส้นทางนี้อยู่ทางหลวงหมาย24และยังมีแหล่งที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆอยู่อีกมาของจังหวัดอุบลราชธานี