ห้องน้ำบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด

Posted on 24 กันยายน 202024 กันยายน 2020Categories ตำนานTags ,

สำหรับเรื่องในตำนานนี้จะเป็นที่จังหวัดร้อยเอ็ดสถานที่แห่งนี้ทุกๆคนได้รู้จักกันเป็นอมย่างดีเพราะนี่คือสถานที่ที่ใครหลายๆคนๆได้ใช้ในการออกกำลังกายมาพบเพื่อนบ้างมาทำกิจกรรมต่างๆบ้างถ้าพูดถึงสถานที่แห่งนี้แล้วทุกคนจะร้องอ้อทันทีสำหรับเรื่องที่เราดังต่อไปนี้ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม

ซึ่งเรื่องราวต่างๆที่เราจะเล่ากันในต่อไปนี้มันเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าสืบต่อกันมาและยังไม่ปรากฏหลักฐานออกมาเป็นเพียงเรื่องเล่ากันปากต่อปากบ้างก็ว่าเป็นเรื่องจริงบ้างก็ว่าไม่ใช่เรื่องจริงๆแต่ถึงยังไงแล้วจะต้องวิเคราะห์กันให้ดีๆว่าสิ่งนี้คือเรื่องจริงสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องจริง

ในส่วนของบึงพลาญชัยที่เราจะเล่าดังต่อไปนี้เป็นสถานที่ชาวร้อยเอ็ดมักจะใช้เป็นสถานที่ในการออกกำลังกายผู้คนมักจะออกมาวิ่งออกกำลังกายบริเวณรอบๆบึงหรือมาปั่นบริเวณรอบบึงแห่งนี้เป็นประจำ

บึงพลาญชัยได้ตั้งอยู่กลางเมืองร้อยเอ็ดอำเภอเมืองตำบลเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด

ลักษณะจะดูคล้ายๆกับอยู่เป็นเกาะน้ำที่มีขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ2แสนตารางเมตรบึงพลาญชัยแห่งนี้นอกจากจะมีคนมาวิ่งมาออกกำลังกายแล้วภายในบึงพลาญชัยแห่งนี้ได้มีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจนั่นก็คือศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

ซึ่งได้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิอยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองร้อยเอ็ดแห่งนี้เลย

นอกจากนี้สำหรับใครที่ทอยากจะสำเร็จหรืออยากจะมีสิ่งของดีๆมักจะมีคนเข้ามาของกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองแห่งนี้เป็นประจำหากมองเผินๆไปมันอาจจะดูไม่ค่อยดูน่ากลัวเท่าไหร่อาจจะไม่เคยมีประวัติอาจจะไม่เคยมีเรื่องหลอนอะไรขึ้นมาเลยก็ได้แต่มันไม่เป็นยังนั่น

สำหรับเรื่องหลอนของบึงพลาญชัยมีชาวบ้านพบเจอกันเป็นจำนวนมากโดยเราได้ไปรวบรวมเรื่องสุดหลอนที่มีชาวบ้านได้ไปพบเจอกับสถานที่แห่งนี้มาว่ากันว่าห้องน้ำหญิงที่กลางบึงพลาญชัยแห่งนี้มีประวัติไม่ธรรมดาถ้าย้อมกลับไปในปี2556ที่ผ่านมานี้เคยมีคนที่เข้ามาฆ่าตัวตายแล้วเสียชีวิตในห้องน้ำหญิงแห่งนี้ด้วยได้ออกข่าวไปทั่วเลย

เนื่องจากว่าผู้หญิงที่เสียชีวิตไปเป็นภรรยาของผู้ที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรในจังหวัดแห่งหนึ่งเราจะไม่ขอกล่าวถึงว่ากันว่าชาวบ้านที่ออกกำลังกายในส่วนค่ำหรือว่าช่วงมืดๆแล้วผ่านยังสถานที่แห่งนี้แล้วมักจะชอบได้ยินเสียงของผู้หญิงร้องไห้ออกมาจากห้องน้ำในสถานที่แห่งนี้อยู่เป็นประจำเลย

โดยในช่วงแรกๆที่ได้ยินเสียงหรือว่าการพบเห็นวิญญาณหญิงชาวบ้านก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาออกกำลังกายยังสถานที่แห่งนี้พอสมควรเลย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  dewabet

ตำนานอำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส

Posted on 30 มิถุนายน 2020Categories ประวัติศาสตร์Tags ,

   อำเภอตากใบนั้นเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนราธิวาสซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ในเขตพื้นที่ทางภาคใต้เลยคนสมัยโบราณนั้นได้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเรื่องของตำนานอำเภอตากใบว่าเหตุผลที่ต้องเรียกอำเภอนี้ว่าปากใบนั้นมาจากสาเหตุอะไรซึ่งคนแก่ในสมัยโบราณได้บอกว่าเรื่องราวที่เป็นตำนานนี้มีเรื่องเล่ามามากกว่า 400 ปีมาแล้วซึ่งสมัยนั้นเป็นช่วงสมัยที่อยุธยายังคงรุ่งเรืองมีพ่อค้าจากชาวจีนล่องเรือมาค้าขายกับที่ประเทศไทยนั้นค่อนข้างเยอะสำหรับตำนานของตากใบนั้นมีเรื่องเล่ากันว่ามีพ่อค้าชาวจีนคนหนึ่งได้มีการนำสินค้าจากเมืองจีนไม่ว่าจะเป็นเครื่องถ้วยชามหรือเครื่องเบญจรงค์ต่างๆ

นำมาขายที่เมืองไทยโดยในเดือนนั้นก็จะมีการบรรทุกสินค้ามาเป็นจำนวนมากทั้งเครื่องปั้นดินเผารวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆโดยหวังว่าจะนำสินค้านั้นมาขายที่ประเทศไทยตรงบริเวณแหลมมลายูแต่อย่างไรก็ตามในขณะที่เรือกำลังล่องมากลางทะเลอยู่โดยเรือนั้นใกล้จะมาถึงบริเวณปากอ่าวของประเทศไทยทางด้านตอนใต้อยู่แล้วแต่อยู่ๆก็มีลมทะเลพัดแรงขึ้น

มาทำให้มีขึ้นลงและคลื่นลมแรงนี่เองที่ส่งผลทำให้เรือได้รับความเสียหายพ่อค้าชาวจีนที่เป็นเจ้าของสินค้าบนเรือจึงได้สั่งให้ไส้กรองนั้นทำการปลดใบเรือลงมาเพื่อป้องกันใบเหลืองเสียหายแต่อย่างไรก็ตามเพราะคลื่นลมที่แรงมากเกินไปจนเป็นสาเหตุให้เหลือนั้นจมลงอยู่ภายใต้ทะเลแต่ว่าพ่อค้าชาวจีนรวมถึงไต้ก๋งและคนอื่นๆที่เป็นรูปเรือต่างก็พากันว่ายน้ำช่วยเหลือตนเองพยายามพากันขึ้นฝั่งซึ่งสามารถที่จะว่ายน้ำมาถึงเกาะแห่งหนึ่งและเมื่อขึ้นมาบนเกาะได้พวกเขานั้นก็เห็นว่าเกาะแห่งนี้มีแต่ความอุดมสมบูรณ์มีต้นไม้

เยอะเขาจึงได้พากันถอดเสื้อผ้าที่เปียกปากแถวตามกิ่งไม้รวมถึงไปขนของที่น้ำนั้นพัดเข้าฝั่งมานำไปตากรวมถึงใบเรือที่มีการปลดล็อคเอาไว้ก็เอาไปตากด้วยอย่างไรก็ตามที่เกาะแห่งนี้ไม่ได้เป็นเกาะร้างแต่เป็นเกาะที่มีคนอาศัยอยู่และได้มีชาวมลายูคนหนึ่งไปทำการตัดกิ่งไม้ซึ่งบังเอิญว่าต้นไม้ที่เขาตัดนั้นอยู่ใกล้กับเสื้อผ้าที่ชาวจีนนั้นนำมาตากด้วยความโลภ

อยากจะได้เขาจึงไปตัดกิ่งไม้ที่มีเสื้อผ้าตากอยู่แต่บังเอิญว่าชาวจีนและลูกน้องนั้นมาเห็นเข้าจึงได้ร้องโวยวายขึ้นซึ่งชาวมลายูก็ได้ขอโทษชาวจีนไปและสัญญาว่าจะไม่ทำอีกทำให้ชาวจีนนั้นให้อภัยชายคนดังกล่าวหลังจากนั้นชาวจีนก็อาศัยอยู่ที่บนเกาะแห่งนั้นเรื่อยมาจนต่อมาก็มีเรือของชาวจีนนำสินค้ามาขายมากมายชาวจีนจึงได้มีการซื้อสินค้าของเพื่อนร่วมประเทศ

และก็อาศัยอยู่ที่ประเทศไทยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาซึ่งตรงบริเวณที่ชาวจีนมาอาศัยอยู่นั้นเขาได้มีการตั้งชื่อไว้ว่าตากใบซึ่งมีชื่อ ที่ เขานั้นได้นำใบเรือมาตากนั่นเองในปัจจุบันนี้เรายังสามารถเห็นวัตถุโบราณต่างๆที่ขนมาจากเมืองจีนและประสบอุบัติเหตุทางเรือถูกนำมาแสดงโชว์ไว้ที่วัดชลธาราสิงเหซึ่งถ้าหากใครอยากจะไปดูข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณก็สามารถไปหาดูกันได้ที่วัดได้เลย 

 

 

สนับสนุนโดย  dewabet