กองกำลังที่มีชีวิตชีวาใน Soft Power ของเกาหลีใต้

Posted on 16 พฤศจิกายน 2023Categories ศิลปะTags ,

Soft Power ของเกาหลีใต้ สำหรับ นโยบาย Soft Power ที่นำโดยรัฐบาลของเกหาลีใต้นั้นเป็นการสร้างกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจ

สู่การทูตสาธารณะและอะไรคือปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การขยายตัวของความนิยมทางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนประเมินความสำเร็จของกระแสเกาหลี ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเกาหลีใต้และการส่งออกตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 อันเป็นผลจากการสนับสนุนขององค์กรของรัฐบาลเกาหลีใต้ ความจริงที่ว่ารัฐบาลเกาหลีใต้ได้จัดตั้งวัฒนธรรมต่างๆ

โดยนโยบายที่เป็นยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ นโยบายดังกล่าวได้กลายเป็นเครื่องมือทางการทูตของประชาชนในเวลาต่อมา โซลเริ่มใช้อุตสาหกรรมวัฒนธรรมเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเริ่มกำหนดนโยบายวัฒนธรรมที่แข็งขันในทศวรรษที่ 1990 มีเรื่องราวที่โด่งดังเกี่ยวกับกรณีที่คณะกรรมการที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอต่อประธานาธิบดีคิม ยองซัม

เกี่ยวกับศักยภาพการส่งออกของอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ซึ่งคณะกรรมการได้ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Jurassic Park สร้างขึ้นในฐานะ มีรายได้มากเท่ากับการส่งออกรถยนต์ฮุนได 1.5 ล้านคันไปต่างประเทศ15 ตั้งแต่นั้นมา รัฐบาลเกาหลีใต้ได้แนะนำและกำหนดนโยบายที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรม

โดยเน้นกลยุทธ์เศรษฐกิจที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ฝ่ายบริหารของ คิมแดจองเริ่มต้นในปี 1998 ได้ประกาศแผนพัฒนา Hallyu Industry Support Development Plan โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ ในขณะนั้น คณะบริหารของ Kim ได้ขยายงบประมาณสำหรับอุตสาหกรรมวัฒนธรรมจาก 14 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 1998 เป็น 84 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2001

ในทำนองเดียวกัน ฝ่ายบริหารของ ฮยอนโรมูก็เพิ่มเงินอุดหนุนสำหรับสตาร์ทอัพด้านวัฒนธรรม16 รัฐบาลยังได้ลงทุนในโครงการริเริ่มดังกล่าวเพื่อปรับปรุง บรรยากาศอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและออกกฎหมายคุ้มครองตลาดวัฒนธรรมภายในประเทศ ตัวอย่างเช่น มีกฎหมายพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมวัฒนธรรมในปี 2542

การจัดตั้งสำนักงานวัฒนธรรมและเนื้อหาในปี 2544 และพระราชบัญญัติการพัฒนาอุตสาหกรรมเนื้อหาดิจิทัลออนไลน์ในปี 2545

นอกจากนี้ กฎหมายส่งเสริมภาพยนตร์ปี 2538 มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องเกาหลีใต้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศผ่านการดำเนินการรักษาโควตาหน้าจอ17 อย่างไรก็ตาม รัฐบาล ลีมงบัก ได้เปลี่ยนทิศทางของนโยบายวัฒนธรรมจากกลยุทธ์ที่เน้นด้านเศรษฐกิจเป็นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวคิดของ “Global Korea” ภายใต้การบริหารของ Lee ได้รวมเอาความคิดริเริ่มทางเศรษฐกิจ การเมือง อุดมการณ์ และวัฒนธรรม เพื่อสร้างเอกลักษณ์ประจำชาติของเกาหลีใต้ในฐานะ “ที่มุ่งเน้นอนาคต ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และวิสัยทัศน์”18 สมุดปกขาวทางการทูตที่เผยแพร่ในปี 2010

ได้อธิบายถึง อำนาจอ่อนเป็น “มีความสำคัญมากขึ้น; วัฒนธรรมได้กลายเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของความสามารถในการแข่งขันของประเทศและทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ทันกับสภาพแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงนี้ เกาหลีได้นำการทูตเชิงวัฒนธรรมมาใช้เป็นเสาหลักใหม่ของการประกอบการทูตของประเทศ”19

นอกจากนี้ ฝ่ายบริหารของลียังดำเนินการสภาประธานาธิบดีว่าด้วยการสร้างแบรนด์แห่งชาติสำหรับการทูตสาธารณะ และเปลี่ยนจุดเน้นของนโยบายวัฒนธรรม สู่แนวทางตามแนวคิดของพลังอ่อน หลายคนมองว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและการทูต รัฐบาลมองว่ากระแสเกาหลีเป็นแหล่งรายได้ใหม่ผ่านการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

สิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องมากขึ้นเมื่อกระแสเกาหลีขยายตัวรวมถึงการส่งออกอื่นๆ เช่น เกมออนไลน์ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และแฟชั่น กระแสเกาหลีกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของ soft power20

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    มั่งมีหวย

เจอโรนิโม นักรบที่ทหารเม็กซิกันต่างเกรงกลัว

Posted on 15 กรกฎาคม 2023Categories ประวัติศาสตร์Tags ,

ซึ่งคนของเจอโรนิโมมีศรัทธาต่อเขาจากความเป็นผู้นำที่กล้าแกร่งพวกเขาเชื่อว่าเจอโรนิโมเป็นผู้ที่สวรรค์ส่งมาช่วยชาวอินเดีย

เจอโรนิโม นักรบที่ทหารเม็กซิกัน ต่อสู้กับคนขาว เจอโรนิโมไม่ใช่ชื่อที่แทนจริงแต่เป็นชื่อที่ทหารเม็กซิกันเรียกเขาด้วยความหวาดกลัวที่มาของชื่อมาจากเมื่อครั้งที่ถิ่นที่อยู่อาศัยของเขาอยู่ในเขตของเม็กซิโกและเกิดสงครามกันครั้งหนึ่ง

โดยเจอโรนิโมพาคนของเขาปล้นค่ายทหารเม็กซิกันพวกกทหารตั้งตัวไม่ติดต่างรบหนีกันแต่ก็ไม่อาจหลบหนีทันการจูโจมแบบสายฟ้าแสบของพวกอินเดียขนาดที่พวกเจอโรนิโมพุ่งงเข้าหาทหารเม็กซิกันคนนึงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทหารคนนั้นเผลอพูดชื่อของนักบุญเจอโรมขึ้นมาอย่างตกใจ

เพื่อขอพระคุ้มครองซึ่งชื่อนี้เป็นภาษาสเปนก็คือเจอโรนิโมจากนั้นชื่อเจอโรนิโมก็กลายเป็นชื่อที่ทหารเม็กซิกันใช้สื่อสารอันหมายถึงบุรุษผู้น่ากลัวผู้นี้และถูกนำมาใช้ต่อกันมาจนถึงทหารอเมริกันชื่อที่แทนจริงของเจอโรนิโมคือ โกยาตเลย์ เป็นปกติของชื่อชาวอินเดียที่ตั้งตามลักษณะประทับใจ

ดังนั้น เจอโรนิโมเกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ปีคริสต์ศักราช 1829 ในชนเผ่า เบดอนโคเฮ อาปาเช เผ่าของชาวใช้ชีวิตอยู่กลางทุ่นหญ้าในดินแดนที่ปัจจุบันคือรัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งในยุคสมัยที่เจอโรนิดมเกิดนั้นเขตแดนนี้อยู่ในเขตของประเทศเม็กซิโกถึงแม้ว่ากำหนดของเจอโรนิโมจะเป็นเบดอนโคเฮอาปาเชแต่ต่อมาเขาก็เข้าเป็นสมาชิกของเผ่า

ซึ่งมีหัวหน้าเผ่าคือ โคชีด เจอโรนิโมมีหน้าที่เป็นหมอยาประจำเผ่าแต่คนขาวมักจะเรียกว่าหมอผีเนื่องจากผู้เป็นหมอยาประจำเผ่านอกจากจะทำหน้าที่รักษาอาการเจ็บป่วยของคนในเผ่าแล้วหมอยาหรือชาแมนจะทำหน้าที่ประกอบพิธีกรมตามประเพณีและความเชื่อแบบของชาวอินเดียและจะเป็นผผู้ทำหน้าที่ประกอบพิธีร่ายมนต์และขอพร

เพื่อนำชัยชนะกลับมาก่อนที่จะออกรบอีกด้วยชาแมนประจำเผ่าของชาวอินเดียจึงถือเป็นตำแหน่งมีเกิยรติซึ่งในบางแห่งอาจมีเกียรติสูงกว่าหัวหน้าเผ่าและจากการเป็นชาแมนของเจอโรนิโมนี่เองที่ทำให้ใครๆมักเชื่อว่าเขามีคาถาอาคมคนขาวถึงกับเชื่อว่าเขาหายตัวได้โดยมีประโยคที่คนขาวมักจะพูดถึงเขาว่า

เมื่อเจอโรนิโมปรากฎตัวแล้วจะไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้เลย  มั่งมีหวย       เขามาและไปในเงามืดในช่วงวัยหนุ่มของเจอโรนิโมนั้นเขาต้องออกรบไปทั่วทุกสมรภูมิไม่หยุดเพราะถิ่นที่อยู่อาศัยขอเผ่านั้นอยู่ในเขตที่อ้างสิทธิโดยทั้งสเปน เม็กซิกัน และ อเมริกัน