การกู้ซากเรือที่ไม่ประสบความสำเร็จของทีมนักสำรวจ

Posted on 14 พฤษภาคม 202014 พฤษภาคม 2020Categories ประวัติศาสตร์Tags ,

จดหมายในขวดแก้ว

หลายคนอาจจะฟังดูแล้วมันจะโรแมนติกที่มีจดหมายน้อยบรรจุในขวดแก้วที่กำลังรอคอยสักวันหนึ่งเผื่อใครที่จะเข้ามาพบเจอแต่ถ้าได้เป็นฉบับนี้ต้องขอบองเลยว่ามันได้ช่วยทำเอาขนลุกและมันน่าเศร้าอย่างไม่น้อย เนื่องจากว่าจดหมายดังกล่าวนี้มันได้เป็นจดหมายขอฉบับสุดท้ายของเหล่านักสำรวจและนักธรณีวิทยาที่ได้มีชายคนหนึ่งได้เขียนถึงนักธรณีฟิสิกส์

และนักธรณีน้ำแข็งเพื่อรายงานผลสำรวจชั้นน้ำแข็งที่เกาะแถวแคนาดาในปี1599มันชั่งน่าเศร้าที่ลายมือกำลังเขียนมันด้วยดินสอนั้นมันดังไปไม่ถึง เนื่องจากว่าตัวของเขานั้นเสียชีวิตก่อนด้วยวัยแค่เพียง27ปีเท่านั้นและในภายหลังอีก54ปีต่อมาขวดแก้วขวดนี้นั่นมันก็ได้ถูกพบอยู่ในกองหินที่มันได้อยู่ได้กับธารน้ำแข็งอาร์กติกหลังจากที่ได้มีคนไปพบและได้เปิดอ่านดู

มันถึงกับทำให้ตัวของเขานั้นต้องตะลึ่ง เนื่องจากว่าข้อความที่อยู่ภายในขวดนั้นมันได้เขียนถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศรวมไปถึงสภาวะโลกร้อนเอาไว้ด้วย ซึ่งมันได้เป็นสิ่งที่มันน่าประหลาดใจเป็นอย่างมากว่าพวกเขานั้นสามารถที่จะรับรู้ได้ช่วงหน้าได้อย่างไรหรือในบางทีมันอาจจะเกิดมาจากการสังเกตในทุกๆวันจนทำให้พวกเขานั้นคาดเดาเอาได้ตนเองหรือไม่ก็มีสัญญาณเตือนภัยมาก่อนแล้วก็ได้

ซากเรืออับปาง

การเดินทางเข้าไปสำรวจในที่ที่มีแต่น้ำแข็งปกคุมมันไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะทางเรือเพราะมันอาจจะเกิดทำให้เสี่ยงต่อพายุในทุกๆรูปแบบ แต่ทว่าในสายตาของเหล่านักสำรวจกับพบว่ามันเป็นอะไรที่มันน่าท้าทายแต่มันก็จะไม่ใช่ทุกครั้งที่เหล่านักสำรวจนั้นจะโชคดีเสมอไปซึ่งเรือลำนี้ในตอนแรกที่ได้ตั้งใจที่จะสร้างภารกิจที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุดในประวัติศาสตร์แต่สุดท้ายเรือลำนี้ก็สู้กับสภาพอากาศไม่ไหว

และยังประกอบไปด้วยเรือได้พุุ่งชนกับก้อนน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ยักษ์ทะเลเวดเดลเข้าอย่างแรงและทำให้เรือลำนี้ได้เกิดมีรอยแตกที่ขนาดใหญ่จากนั้นจึงได้ทำให้ทุกๆคนนั้นถึงกับต้องสละเรือเพื่อที่จะเอาตัวเองรอดโดยไม่รู้เลยว่าชะตากรรมของเจ้าเรือลำนี้มันจะมีสภาพเป็นอย่างไรแต่หลังจากนั้นมาเวลาก็ได้ผ่านไปนานเกือบ100ปี

ก็ได้มีกลุ่มงานแห่งหนึ่ง2019ก็ได้ส่งทีมงานเพื่อเอาเรืออกไปทำการค้นหาเพื่อที่จะกู้ซากเรือดังกล่าวขึ้นมาให้ได้แต่นานวันเท่าไรก็ไม่มีความคืบหน้าเลยสักนิกเดียวราวกับว่าเรือลำนี้ไม่ต้องการที่จะให้ใครค้นพบมันสุดท้ายแล้วพวกเขาคิดว่ามันจะไม่สำเร็จอย่างแน่จึงได้ยกเลิกโครงการและได้ปล่อยให้มันได้เป็นปริศนาอีกต่อไป

 

สนับสนุนโดย  bk8 ดีไหม

ประวัติเกาะฮาชิมะ เกาะร้างที่น่ากลัวแห่งประเทศญี่ปุ่น

Posted on 9 พฤษภาคม 20209 พฤษภาคม 2020Categories ประวัติศาสตร์Tags ,

    ที่เมืองนางาซากิ  ประเทศญี่ปุ่น เกาะที่ชื่อว่า เกาะฮาชิมะ เป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเล ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนั้นเลยทั้งที่บนเกาะก็เคยมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน ซึ่งเกาะฮาชิมะแห่งนี้

เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงเรื่องความหลอนมากที่สุดในโลก โดยเกาะฮาชิมะติดอยู่ในอันดับหนึ่งในห้าเรื่องความหลอนระดับโลกเลยทีเดียว เพราะที่เกาะแห่งนี้ ตอนในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทางการของประเทศญี่ปุ่นได้ใช้เกาะฮาชิมะนี้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษ ซึ่งว่ากันว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้น ทหารญี่ปุ่นได้มีการนำเชลยมาทำงานที่บนเกาะแห่งนี้ โดยการมาทำเหมืองถ่านหิน ซึ่งนักโทษและเชลยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นชาวจีนและชาวเกาหลีใต้นั่นเอง

และเมื่อมีการสิ้นสุดของสงครามโลกแล้ว บริษัทมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่บริษัทหนึ่งในญี่ปุ่นได้มีการซื้อเกาะฮาชิมะนี้เอาไว้ โดยหวังว่าจะมีการพัฒนาเหมืองถ่านหินบนเกาะแห่งนี้ให้มีความก้าวหน้าและยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก แต่การพัฒนาเหมืองถ่านหินก็ไม่สามารถทำได้ต้องปิดตัวลงเพราะหมดยุคของถ่านหิน

เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การใช้พลังงานจากถ่านหินจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป ดังนั้นทั้งพนักงานและเจ้าหน้าที่ของบริษัทมิตซูบิชิ จึงได้พากันย้ายออกมาจากเกาะฮาชิมะและไม่ได้มีคนอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนั้นอีกเลย 

     ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จวบจนมาถึงปัจจุบันนี้ เกาะฮาชิมะ ก็ไม่เคยมีคนเข้าไปอยู่อาศัยอีกเลย ไม่มีสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์และต้นไม้อยู่บนเกาะแห่งนั้น ไม่มีดอกไม้สวยสวยขึ้นเพราะไม่มีใครย่างกลายเข้าไปใกล้เกาะ จึงทำให้เกาะฮาชิมะแลดูน่ากลัว เพราะมีแต่สิ่งก่อสร้างที่รกร้างและไม่มีความสวยงามเลย

ซึ่งเกาะฮาชิมะนี้ กองถ่ายละครและภาพยนตร์หลายกอง ได้มีการติดต่อขอเข้าไปถ่ายทำรายการอยู่หลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เรื่อง Battle Rouale  ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่มีการถ่ายทำภาพยนต์เรื่องนี้อยู่นั้น คนในกองถ่ายได้เจอกับสิ่งที่ผิดปกติอยู่บ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น ในบางฉากของภาพยนต์มักจะมีคนที่ไม่ใช่คนในกองถ่ายติดเข้ามาด้วย หรือแม้แต่การที่ถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ดีดีฟิมล์ก็เสีย ซึ่งฟิมล์ที่ถ่ายทำนั้นก็เป็นฟิมล์เพิ่งซื้อมาใช้งานใหม่ใหม่

  และที่สร้างความน่ากลัวมากจนทำให้กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องหยุดการถ่ายทำไปเป็นเวลานานหลายสัปดาห์เลยก็คือ การที่นักแสดงหญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า  ชิอากิ คูริยามา  ซึ่งเป็นนักแสดงในเรื่องถูกวิญญาณเข้าสิง จนต้องเชิญหมอผีมาทำพิธีขับไล่วิญญาณออกไป ซึ่งหมอผีได้บอกว่าที่เกาะแห่งนี้มีวิญญาณที่มีความแค้นอยู่มากและไม่สามารถขับไล่วิญญาณเหล่านี้ออกไปได้ และตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีใครกล้าไปที่เกาะแห่งนั้นอีกเลย

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  bk8 info

ประวัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่ทรงเผยแพร่พระพุทธศาสนา

Posted on 2 พฤษภาคม 20202 พฤษภาคม 2020Categories ประวัติศาสตร์Tags ,

ประวัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่ทรงเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปจนถึงปรินิพพานดับสูญ

          เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วถึงประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้าตั้งแต่เยาว์วัยว่าเป็นมาอย่างไรซึ่งหลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงออกบวช พระองค์ก็ทรงเดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆเพื่อไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาจนพระองค์สามารถที่จะสอนผู้คนให้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ซึ่งขณะนั้นสามารถสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้ทั้งหมด 60 รูปด้วยกัน

โดยพระพุทธเจ้ามีการคาดหวังว่าพระองค์อยากจะให้ประชาชนทุกคนในโลกต่างพ้นทุกข์ไม่มีกิเลสดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้มีการเรียกให้สาวกของพระองค์ทั้ง 60 รูปให้พากันแยกย้ายออกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ประชาชนคนอื่นได้ทราบ

เพื่อที่ทุกคนจะได้พ้นจากกิเลสและพ้นทุกข์โดยมีการกำหนดเอาไว้ว่าพระอรหันต์ทั้ง 60 รูปนี้จะต้องเดินทางไปตามเส้นทางที่ไม่ซ้ำกันเพื่อที่จะได้ เผยแผ่หลักคำสั่งสอนได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ส่วนตัวพระพุทธเจ้าเองนั้นพระองค์ก็ได้มีการไปแสดงพระธรรมเทศนาให้กับประชาชนได้ฟังที่อุรุเวลาเสนานิคม

     หลังจากที่พระอรหันต์ทั้ง 60 รูปต่างก็พากันเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อไปสอนหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้ประชาชนต่างก็พ้นทุกข์ทำให้คนที่ได้ฟังคำสั่งสอนหลักธรรมเทศนาต่างก็พากันเลื่อมใสศรัทธาและยกย่องชื่นชมพระพุทธศาสนากันเป็นอย่างมากทำให้มีหลายคนสนใจที่จะบวชตามรอยของพระอรหันต์และพระพุทธเจ้าซึ่งหลังจากที่มีคนสนใจพี่จะบวชเยอะทำให้พระพุทธเจ้าได้อนุญาตให้พระอรหันต์สามารถที่จะทำการบวชให้กับผู้คนแทนพระองค์ได้เลย

โดยวิธีการบวชนั้นใช้เป็นวิธีติสรณคมอุปสัมปทา  ซึ่งเป็นการปฏิญาณตนว่าจะเป็นคนที่คอยเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้คนอื่นได้รู้จักและรู้ถึงพระรัตนตรัยซึ่งพระพุทธเจ้านั้นได้มีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อแสดงธรรมเป็นการโปรดสัตว์ให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นระยะเวลาถึง 45 พรรษา หลังจากนั้นพระพุทธเจ้าทรงเข้าฌานและรู้ว่าตนเองจะต้องปรินิพพานภายในอีก 3 เดือนข้างหน้า พระองค์จึงได้เดินทางไปยังเมืองกุสินารา และพระพุทธเจ้าก็ได้ไปนิพพานในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ที่ใต้ต้นสาละ   ซึ่งถือว่าวันที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานนั้นคือวันเริ่มต้นของพุทธศักราชซึ่งเมื่อนับรวมตั้งแต่พระพุทธเจ้าเกิดจนปรินิพพานนั้นพระพุทธเจ้ามีอายุรวมทั้งสิ้น 80 พรรษา

      ประวัติของพระพุทธเจ้ายังมีอีกมากมายหลายอย่างที่พระองค์ได้สั่งสอนให้คนเป็นคนดีอีกทั้งยังเผยแพร่พุทธศาสนาไปทั่วซึ่งปัจจุบันถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าจะมีการปรินิพพานไปแล้วแต่คำสอนของพระองค์ก็ยังคงมีอยู่และยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวของคนทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธซึ่งหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้มีอะไรมากเลยเพียงแค่สอนให้คนเป็นคนดีและไม่ยึดติดกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้หัดมีการใช้สติให้มากและไม่เบียดเบียนผู้อื่นไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแค่นี้ทุกคนก็สามารถบรรลุหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาได้แล้ว

 

 

 สนับสนุนโดย  ติดต่อ next88