ตำนานผีโพง

Posted on 9 เมษายน 20207 เมษายน 2020Categories ประวัติและตำนานTags , ,

 เชื่อว่าหลายคนยังคงเคยได้ยินผุ้คนพูดถึงผีโพง ซึ่งในสมัยโบราณมีการเชื่อกันว่าในช่วงกลางคืนจะมีผีโพงออกอารวาดซึ่งผีโพงมัก จะชอบกินกบกินเขียดเป็นอาหารโดยชาวบ้านเชื่อกันว่า  ผีโพงจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนปกติทั่วไป ซึ่งผีโพงมันจะสิงมาอยู่ในร่างกายของคน โดยคนที่โดนสิงนั้นจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นในตอนกลางวันคนที่ถูกผีโพงเข้าสิงก็มักจะเหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป

ตอนกลางคืนมันจะพากันออกหากินในการออกหากบหาเขียดกินเป็นอาหาร ลักษณะของผีโพงจะมีลูกไฟขึ้นอยู่ตรงบริเวณจมูก  โดยจะมีด้วยกันประมาณ 3 สี นั่นก็คือสีแดง สีม่วง และสีเขียว ผีโพงจะออกหาอาหารในตอนกลางคืน โดยจะดูดเอาเหมือกของกบ ของเขียด และของปลามากิน

เมื่อดูดเมือกเสร็จแล้วก็จะปล่อยสัตว์เหล่านั้นทิ้ง ในตอนกลางวัน ชาวบ้านทั่วไปจะไม่รู้เลยว่าใครที่เป็นผีโพง แต่ถ้าหากเป็นตอนกลางคืนจะมีวิธีสังเกตุได้ว่าใครเป็นผีโพงก็คือ ก่อนที่ผีโพงจะออกหากิน พวกผีโพงจะเอาจมูกไปถูกกับบันไดให้เกิดสีก่อนที่จะออกหากิน โดยพวกผีโพงจะใช้แสงตรงจมูกในการส่องหากบ หาเขียดกิน สำหรับช่วงที่คนที่เจอผีโพงบ่อยบ่อยนั้น จะเป็นช่วงที่ฝนตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าฝน  โดยปกติแล้วผีโพงจะไม่ทำร้ายคน พวกมันจะค่อนข้างกลัวคนซะมากกว่าเพราะกลัวคนจะเห็นหน้า

ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าหากใครได้เห็นหน้าผีโพงแล้วเราก็พวกมันจะขอร้องอ้อนวอนไม่ให้นำเรื่องดังกล่าวไปบอกกับใครโดยมันจะเอาใบไม้มาใส่เป็นทองแล้วมอบเป็นสิ่งตอบแทนแลกเปลี่ยนกับความรักของพวกมัน แต่ถ้าหากใครไม่ยอมรับปากว่าจะเก็บเรื่องราวของพวกมันเป็นความรักพวกมันก็จะทำร้าย หรือทำให้กลายเป็นผีโพงเหมือนกัน

และสำหรับทองคำที่ผีโพงเสกให้ในช่วงเวลากลางคืนนั้น เมื่อถึงเวลาในตอนเช้าทองคำเหล่านั้นก็จะกลับกลายร่างเป็นดังเดิม เช่นเป็นใบไม้หรือก้อนหิน และคนที่เห็นผีโพงก็ยังต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ซึ่งหากใครที่เปิดเผยความลับของมัน พวกมันจะรับรู้ด้วยญาณวิเศษของมันและมันจะอาฆาตคนทีบอกความลับของพวกมันและตามมาทำร้ายในภายหลัง 

ซึงลักษณะของการแก้ไขของผีโพงนั้นพวกมันมักจะใช้วิธีนำก้านกล้วยมาตัดเอาใบออกแล้วนำก้านกล้วยที่ไม่มีใบมาโยนข้ามหลังคาบ้านโดยมีการเชื่อกันว่านั่นคือการสาปแช่ง เพราะหากใครที่ถูกทำเช่นนั้นจะมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยจนถึงแก่ความตายได้ ส่วนการสืบทอดการเป็นผีโพงนั้นจะมีการสืบทอดทายาทกันจากน้ำลายหากใครไปเผลอกินน้ำลายของผีโพงหรือโดนผีโพงพ่นน้ำลายเข้าไปก็จะกลายเป็นผีโพงทันที

 

ขอขอบคุณเว็บ  9luck ที่ให้การสนับสนุน

ตำนานหนูน้อยหมวกแดงการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์

Posted on 6 เมษายน 20204 เมษายน 2020Categories ตำนานTags , , ,

 คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักหนูน้อยหมวกแดงในตำนานที่เป็นสาวน้อยน่ารักใส่ซื่อบริสุทธิ์แต่ต้องเจอกับหมาป่าจอมชั่วร้ายแต่ในที่สุดก็สามารถปรับตัวเองออกมาจากภัยอันตรายที่จะได้รับกับรายได้โดยเรื่องราวของหนูน้อยหมวกแดงนั้นเกิดขึ้นเมื่อหนูน้อยหมวกแดงทุกคุณแม่สั่งให้นำขนมไปเยี่ยมคุณยายซึ่งอาศัยอยู่ในป่าโดยคุณแม่สั่งให้หนูน้อยหมวกแดงนำขนมที่ทำขึ้นไปให้คุณยายรับประทานและหนูน้อยหมวกแดงต้องเดินทางไปคนเดียว

แม่จึงได้กำชับให้ระวังตัวระหว่างทางอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้ซึ่งเธอก็รับปากคุณแม่เป็นอย่างดีแล้วระหว่างทางที่ไปบ้านของคุณนายเธอก็เจอกับหมาป่าตัวหนึ่งที่ต้องไปกินเธอแต่ด้วยความใสซื่อของเธอเธอจึงเล่าเรื่องราวว่าเธอกำลังจะเดินทางไปที่ไหนให้หมาป่าฟังทำให้หมาป่าฉุกคิดได้ว่าแทนที่จะกินเธอคนเดียวหมาป่า

ควรจะได้กินทั้งหลายของเธอและเธอด้วยเรื่องนั้นจึงได้เดินทางไปที่บ้านของคุณยายและกินคุณยายเข้าไปหนูน้อยหมวกแดงเดินทางไปถึงที่บ้านของคุณยายก็พบว่าคุณยายมีการคลุมผ้าไว้ค่อนข้างมิดชิดแต่ก็สงสัยในลักษณะของคุณยายที่แตกต่างกันออกไปเช่นใดมีฤทธิ์เร็วขึ้นอยู่ที่ยาวขึ้นยาวขึ้นเมื่อหนูน้อยหมวกแดงสงสัยก็ถามเอาไปชนหมาป่ารำคาญจึงได้แสดงตัวออกมาว่าตนเองเป็นหมาป่าและไม่กินคุณได้เข้าไปแล้ว

และในขณะที่หมาป่ากำลังจะกินหนูน้อยหมวกแดงมันเองก็มีนายพรานก็มาช่วยเหลือหนูน้อยหมวกแดงและได้ฆ่าหมาป่าไปหลังจากนั้นนายพรานและหนูน้อยหมวกแดงก็ผ่าท้องหมาป่านำคุณยายออกมาจากท้องหมาป่าซึ่งหมาป่าก็ได้ตายไปและคุณยายและหนูน้อยหมวกแดงก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข 

สำหรับนิทานเรื่องนี้เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจากรุ่นสู่รุ่นปัจจุบันนิทานปรัมปราเรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ให้ทุกคนได้ดูจากการแสดงของนักแสดงโดยตรงแทนการฟังจากหนังสือนิทานและไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงนี้ก็ยังคงเป็นนิทานที่พ่อแม่สามารถนำมาเล่าให้กับลูกฟังก่อนเข้านอนได้

และไม่ว่าเด็กคนไหนที่นี่ฟังนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงนี้ก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านิทานเรื่องนี้มีความสนุกและน่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆกันทุกคนซึ่งหลังจากที่ได้มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์นั้นนิทานหนูน้อยหมวกแดงก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาผู้ใหญ่ที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันอีกด้วย 

สำหรับนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีนิทานเรื่องนี้ก็ยังเป็นนิทานอมตะเรื่องหนึ่งที่ใครได้ฟังก็ไม่เคยเบื่อเลยที่จะฟังซ้ำอีกจึงเรียกได้ว่านิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงคือนิทานในตำนานที่เราสามารถจดจำเรื่องราวของนิทานเรื่องนี้และมาเล่าให้ลูกหลานได้ฟังต่อไป 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  sagame