ความโรคจิตของเจ้าชายวลาดของชนชั้นสูงสมัยก่อน

สำหรับคำว่าโรคจิตมันได้เป็นคำชนชั้นสูงที่ได้เอาชีวิตคนหรือว่าชีวิตสัตว์มาละเลงเลือดเล่นหรือนำเอามาทำอะไรที่มันแปลกๆที่มันได้ผิดศีลธรรมในตัวของมนุษย์คนทั่วไป ถ้ายกตัวอย่างอันแรกย้อนกลับไปในปี ค.ศ. เก่าๆทุกๆคนก็น่าจะเคยได้ยินตำนานของแดร็กคูล่า คือแดร็กคูล่ามันได้เป็นนิยายที่ถูกแต่งขึ้นมาจากคนๆหนึ่งที่ได้มีชื่อว่า แบรม สโตกเกอร์

คนๆนี้เขาได้แต่งนิยายแดร็กคูล่าขึ้นมาจากความฝันและไปอิงมาจากเรื่องจริงจากเจ้าชายแห่งประเทศโรมันเนียที่ได้มีชื่อว่าเจ้าชายวลาด  เจ้าชายวลาดได้เป็นเจ้าชายในสมัยก่อนที่ได้ใช้คำว่าโด่งดังเอามากๆถ้าใครที่ได้ไปที่โรมันเนียหรือในที่แทบๆนั้นแล้วถามว่ารู้จักประวัติของเจ้าชายวลาดมั้ย

ซึ่งเราเชื่อว่าถ้าใครเคยได้ยินประวัติหรือว่าเรื่องราวของแดร็กคูล่ามันก็คงจะไม่พ้นการกัดการดูดเลือดการเหม็นกระเทียมหรือว่าการแพ้แสงหรือจะต้องนอนในโลง ซึ่งตรงนี้มันได้เป็นนิยายที่มันได้ถูกแต่งขึ้นมาแต่ในความเป็นจริงแล้วมันได้มีแดร็กคูล่าจริงๆมั้ย มันไม่ได้มีแดร็กคูล่าจริงๆที่แบบว่ากัดคอแล้วดูดเอาเลือดสดๆแต่มันได้เป็นฉายาที่เขาได้ให้กับเจ้าชายคนหนึ่ง

ที่เราได้กล่าวไปเมื่อคู่ก็คือเจ้าชายวลาด เพราะว่าเจ้าชายท่านนี้ได้มีความโรคจิตอยู่อย่างหนึ่งก็คือได้เป็นเจ้าชายที่ซาดิสท์มากแล้วก็ค่อนข้างที่จะชอบการละเลงเลือด เจ้าชายวลาดได้เป็นคนที่ได้เป็นนักรบและได้เป็นผู้ปกครองในสมัยก่อนที่ชอบในการต่อสู้การเห็นคนโดนทรมานถ้าสมมุติว่าเราจับนักโทษมาได้หรือได้มีคนที่ได้ถูกคุมขังกันอยู่เขา

ก็จะมีการประหารหรือว่าการทรมานอย่างสุดแรงเกิดเลยก็คือการจับเอามนุษย์มาทั้งนำเอาไปเสียบเข้าไปกับแท่งเหล็กที่ได้ตั้งเอาไว้แล้วก็ปล่อยให้มนุษย์คนนั้นได้ตายอย่างช้าๆแล้วทรมานจนตายและถามว่าเรื่องนี้มันได้เป็นเรื่องจริงหรือไม่แน่นอนเลยว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงและมันได้เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ของโรมันเนียเลยก็ว่าได้และ

จากเหตุการณ์เหล่านี้มันก็เลยทำให้ชายชาวโรมันเนียหรือคนที่ได้เขียนประวัติศาสตร์ของเจ้าชายวลาดได้ตั้งฉายาเจ้าชายคนนี้ว่าเจ้าชายแดร็กคูล่าเพราะว่าเจ้าชายท่านนี้ได้ชอบการละเลงเลือดชอบเห็นคนถูกทรมานก็เลยได้รับฉายานี้ไปแต่ด้วยผลของเวรกรรมก็ที่ได้ทำอะไรกับคนอื่นแบบนี้เอาไว้เยอะเจ้าชายก็เลยสิ้นพระชนม์จากการสู้รบและโดนตัดหัวแล้วก็ปักประจานเอาไว้อีกด้วย

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  sagame สูตร